การเปิดร้านซูชิเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารญี่ปุ่นและต้องการก้าวเข้าสู่โลกของธุรกิจร้านอาหาร ซูชิเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นก็สามารถสร้างความพอใจให้กับลูกค้าได้ทุกช่วงเวลา ด้วยการที่ซูชิมีรสชาติที่หลากหลายและมีความสะดวกในการรับประทาน การเปิดร้านซูชิจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่
การเปิดร้านซูชิไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวางแผนธุรกิจที่รอบคอบและการเตรียมความพร้อมในหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การกำหนดรูปแบบร้านซูชิ, การเรียนรู้และฝึกฝนการทำซูชิ, การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือการซื้อแฟรนไชส์ ไปจนถึงการตั้งราคาขายและการเลือกแหล่งซื้อวัตถุดิบที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจของคุณ
การเตรียมตัวที่ดีและการวางแผนที่เป็นระบบจะช่วยให้คุณสามารถเปิดร้านซูชิได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ ค้นหาข้อมูลที่จำเป็นและจัดเตรียมทุกด้านให้ครบถ้วนจะเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของคุณ มาดูกันว่าเราควรเตรียมตัวและวางแผนอย่างไรเพื่อให้ร้านซูชิของคุณเริ่มต้นได้อย่างราบรื่นและดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด
การกำหนดรูปแบบร้านซูชิ
ร้านซูชิแบบบาร์
การเปิดร้านซูชิแบบบาร์เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีพื้นที่จำกัด การจัดวางที่นั่งบริเวณบาร์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านซูชิประเภทนี้ ลูกค้าสามารถนั่งรอบบาร์และชมการทำซูชิสดๆ จากเชฟผู้ชำนาญการได้ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีความสุข การเห็นการเตรียมอาหารตรงหน้าไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจในความสะอาดและคุณภาพของอาหาร แต่ยังเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเชฟและลูกค้า ทำให้เกิดความประทับใจและการกลับมาใช้บริการซ้ำ ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านซูชิแบบบาร์อาจสูงขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากต้องการอุปกรณ์และวัสดุที่มีคุณภาพ รวมถึงการออกแบบให้สวยงามและเข้ากับบรรยากาศญี่ปุ่น
ร้านซูชิแบบตลาดนัด
การเปิดร้านซูชิในตลาดนัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยงบประมาณที่จำกัด การเปิดร้านในตลาดนัดไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ยังคงสามารถดึงดูดลูกค้าได้จำนวนมากด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย การตั้งร้านในตลาดนัดช่วยลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่และค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้าน ร้านซูชิแบบตลาดนัดสามารถปรับตัวได้ง่ายตามสภาพแวดล้อมและกลุ่มลูกค้า การนำเสนอซูชิในรูปแบบที่แตกต่างกันตามความต้องการของตลาด เช่น ซูชิราคาประหยัด ซูชิแบบพกพา หรือซูชิแบบฟิวชั่น จะช่วยเพิ่มยอดขายและความนิยมของร้าน นอกจากนี้ การมีโปรโมชั่นพิเศษและการตั้งร้านในทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่านจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
การเรียนรู้และฝึกฝนการทำซูชิ
การเข้ารับการอบรมจากสถาบันหรือโรงเรียนสอนทำซูชิ
การเรียนรู้การทำซูชิจากสถาบันหรือโรงเรียนสอนทำซูชิเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้เชิงลึกและเทคนิคการทำซูชิอย่างมืออาชีพ หลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันเหล่านี้มักจะครอบคลุมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของซูชิ การเลือกวัตถุดิบ การเตรียมข้าวซูชิ การหั่นปลา และการตกแต่งซูชิให้น่ารับประทาน ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนการทำซูชิภายใต้การดูแลและคำแนะนำของเชฟผู้มีประสบการณ์ ทำให้สามารถพัฒนาทักษะและความมั่นใจในการทำซูชิได้อย่างรวดเร็ว
การเรียนรู้ด้วยตัวเองจากสื่อดิจิทัล
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกหรือไม่มีงบประมาณเพียงพอในการเข้ารับการอบรมจากสถาบัน สามารถเลือกเรียนรู้การทำซูชิด้วยตัวเองจากสื่อดิจิทัลได้เช่นกัน ปัจจุบันมีคลิปวิดีโอสอนทำซูชิจากเชฟมืออาชีพมากมายในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Facebook, และ Instagram ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรู้จากคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาครบถ้วนและละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนพื้นฐานจนถึงขั้นสูง การเรียนรู้ด้วยตัวเองจากสื่อดิจิทัลไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังสามารถเลือกเรียนรู้ได้ตามความสะดวกและปรับตัวตามจังหวะของตัวเองได้
การฝึกฝนและทดลองทำซูชิอย่างสม่ำเสมอ
การเรียนรู้ทักษะการทำซูชิไม่เพียงพอหากไม่มีการฝึกฝนและทดลองทำอย่างสม่ำเสมอ ผู้เรียนควรเริ่มต้นจากการฝึกทำซูชิพื้นฐาน เช่น นิกิริซูชิ มากิซูชิ และซาชิมิ ฝึกหัดการใช้มีดในการหั่นปลาให้ได้ขนาดและรูปร่างที่สวยงาม รวมถึงการปรุงข้าวซูชิให้ออกมามีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เหมาะสม การทดลองทำซูชิแบบต่างๆ จะช่วยให้ผู้เรียนมีความชำนาญมากขึ้นและสามารถพัฒนาทักษะการทำซูชิของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
การขอคำแนะนำและคำติชมจากผู้มีประสบการณ์
การขอคำแนะนำและคำติชมจากผู้มีประสบการณ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการทำซูชิได้อย่างรวดเร็ว ผู้เรียนสามารถขอคำแนะนำจากเชฟหรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำซูชิ เพื่อให้ได้คำแนะนำที่มีประโยชน์และนำมาปรับปรุงการทำซูชิของตนเอง นอกจากนี้ การเข้าร่วมกลุ่มชุมชนออนไลน์หรือกลุ่มผู้สนใจการทำซูชิในโซเชียลมีเดีย ยังช่วยให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้อื่น ทำให้มีแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ๆ ในการทำซูชิ
การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์
ความสะดวกและความง่ายดายในการเริ่มต้นธุรกิจ
การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจซูชิโดยไม่ต้องมีประสบการณ์หรือทักษะการทำซูชิอย่างลึกซึ้ง ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์คือการได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาอุปกรณ์ วัตถุดิบ สูตรการทำซูชิ รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานเบื้องต้น ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและฐานลูกค้าที่มั่นคง ทำให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง
การลดความเสี่ยงและความยุ่งยากในการดำเนินธุรกิจ
การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์ยังช่วยลดความเสี่ยงและความยุ่งยากในการดำเนินธุรกิจ ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาในการค้นคว้าและพัฒนาสูตรซูชิ ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ รวมถึงการจัดการโลจิสติกส์และการตลาด บริษัทแฟรนไชส์จะดูแลส่วนเหล่านี้ให้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นไปที่การบริการลูกค้าและการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การมีระบบการจัดการที่มีมาตรฐานจากบริษัทแฟรนไชส์ยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความเสถียร
การสนับสนุนด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์
บริษัทแฟรนไชส์มักจะมีแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์จะได้รับประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์แบรนด์ที่มีชื่อเสียง ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทแฟรนไชส์ยังมีการจัดทำโปรโมชั่นและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้า การได้รับการสนับสนุนด้านการตลาดจากบริษัทแฟรนไชส์จะช่วยให้ผู้ประกอบการไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างแบรนด์และการประชาสัมพันธ์ ทำให้มีเวลาและทรัพยากรในการพัฒนาธุรกิจมากขึ้น
ความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ
แม้การซื้อแฟรนไชส์จะมีข้อดีมากมาย แต่ผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการ เนื่องจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์นั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานของบริษัทแฟรนไชส์อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดในการปรับปรุงหรือพัฒนาร้านค้าให้ตรงกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของตลาดในพื้นที่ ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจและยอมรับข้อกำหนดเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
ความสำคัญของการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจซูชิ การรู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับแผนการตลาด การเลือกวัตถุดิบ และการตั้งราคาขายได้อย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับร้านซูชิจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงาน ซึ่งมีลักษณะการบริโภคที่เน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว และสามารถรับประทานได้ทุกมื้อ
การวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
การวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า การวิจัยตลาดและการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับลักษณะการบริโภค รสชาติที่ชอบ วัตถุดิบที่นิยม และแนวโน้มการบริโภคซูชิ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างเมนูที่หลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงปรับปรุงบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตั้งราคาขายตามกลุ่มเป้าหมาย
การตั้งราคาขายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาเมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ราคาขายควรสัมพันธ์กับคุณภาพของวัตถุดิบและความสามารถในการจ่ายของลูกค้า กลุ่มวัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงานมักจะมองหาสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาที่คุ้มค่า ดังนั้น ผู้ประกอบการควรตั้งราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของซูชิและสามารถแข่งขันได้ในตลาด การเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขาย
การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคงและยั่งยืน ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า การตอบสนองต่อความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการใช้ช่องทางสื่อสารต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและความประทับใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้ การจัดทำโปรแกรมสมาชิกหรือบัตรสะสมแต้มยังเป็นวิธีที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์และความภักดีกับลูกค้า
การประเมินและปรับปรุงกลุ่มเป้าหมาย
การประเมินและปรับปรุงกลุ่มเป้าหมายเป็นกระบวนการที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการควรติดตามแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงของตลาด รวมถึงความคิดเห็นและความต้องการของลูกค้า เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนไป การทำแบบสำรวจ การเก็บข้อมูลจากการขาย และการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินและปรับปรุงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกำหนดทำเลที่ตั้ง
ความสำคัญของทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจร้านซูชิ การเลือกทำเลที่ดีสามารถเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำเลที่ตั้งที่ดีควรเป็นบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน มีการเดินทางสะดวก และมีศักยภาพในการเติบโต ทำเลที่ดีสามารถช่วยสร้างความรู้จักและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
ลักษณะทำเลที่เหมาะสม
ลักษณะทำเลที่เหมาะสมสำหรับร้านซูชิประกอบด้วยหลายปัจจัย ได้แก่
- ย่านที่มีคนพลุกพล่าน: เช่น ตลาดนัด ใต้หอพัก หรือบริเวณใกล้สถานศึกษาและสำนักงาน ทำเลที่มีคนเดินผ่านเยอะจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความรู้จักให้กับร้านซูชิ
- การเดินทางสะดวก: ทำเลที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการเดินทางทั้งทางรถยนต์ รถไฟฟ้า หรือการเดินเท้า จะช่วยให้ลูกค้าสามารถมาที่ร้านได้สะดวกมากขึ้น
- การแข่งขันที่สมเหตุสมผล: การเลือกทำเลที่มีการแข่งขันในระดับที่พอดี ไม่หนาแน่นเกินไป จะช่วยให้ร้านซูชิมีโอกาสในการเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงจนเกินไป
การประเมินทำเลที่ตั้ง
การประเมินทำเลที่ตั้งเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการวางแผนธุรกิจ ผู้ประกอบการควรทำการสำรวจและศึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่ต้องการเปิดร้าน เช่น จำนวนประชากรในพื้นที่ ความถี่ในการเดินทางผ่านบริเวณนั้น พฤติกรรมการบริโภคของคนในพื้นที่ รวมถึงค่าเช่าพื้นที่ การทำวิจัยตลาดและการเก็บข้อมูลสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและมีข้อมูลที่เพียงพอในการเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม
การปรับตัวกับทำเลที่เลือก
หลังจากที่ได้ทำการเลือกทำเลที่ตั้งแล้ว ผู้ประกอบการควรมีการปรับตัวและพัฒนาร้านให้สอดคล้องกับทำเลที่ตั้งที่เลือก การตกแต่งร้านให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ การจัดทำโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ และการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนในบริเวณนั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าและสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ
การใช้บริการเดลิเวอรี่
ในยุคปัจจุบัน การให้บริการเดลิเวอรี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดความสำคัญของทำเลที่ตั้ง ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมกับผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ต่างๆ เช่น Line Man, Grab Food, Get, หรือ FoodPanda เพื่อขยายช่องทางการขายและเข้าถึงลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ร้าน การให้บริการเดลิเวอรี่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและเป็นช่องทางการขายที่มีศักยภาพสูง
การปรับปรุงและพัฒนาทำเลที่ตั้ง
การปรับปรุงและพัฒนาทำเลที่ตั้งเป็นกระบวนการที่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการควรติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของทำเลที่ตั้งเพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด การเก็บข้อมูลจากการขาย การรับฟังความคิดเห็นของลูกค้า และการสำรวจแนวโน้มของพื้นที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงและพัฒนาทำเลที่ตั้งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
การจัดเตรียมอุปกรณ์ขายซูชิ
อุปกรณ์เบื้องต้น
- ถาดใส่ซูชิ/กล่องใส่ซูชิ/ถาดอะครีลิคสีดำแดง ราคา 200 – 450 บาท
- ถังไม้เก็บข้าวซูชิแบบญี่ปุ่น ราคา 1,500 – 2,000 บาท
- เสื่อม้วนญี่ปุ่นสำหรับทำซูชิ ราคา 30 – 70 บาท
- ถาดญี่ปุ่น ถ้วยญี่ปุ่น ขนาดเล็ก ราคา 50 – 80 บาท
- หญ้าเทียม ราคา 80 บาท/แผ่น
- เขียงไม้ขนาดเล็ก ราคา 100 – 200 บาท
- ตะเกียบไม้ ราคา 100 บาท (ถุงละ 100 คู่)
- โชยุ ราคา 50 บาท (6 กรัม แพ็ค 100 ซอง)
- วาซาบิ ราคา 100 บาท (แพค 100 ซอง)
- โต๊ะขนาดกลาง ราคา 350 – 500 บาท
วัตถุดิบเบื้องต้นสำหรับทำซูชิ
- ข้าวญี่ปุ่นสำหรับทำซูชิ ราคา 150 – 250 บาท (ขึ้นอยู่กับเกรดข้าว)
- ไข่กุ้ง, ไข่มังกร ราคา 250 บาท/ถุง (500 กรัม)
- ยำสาหร่าย ราคา 50 – 80 บาท/ถุง (500 กรัม)
- ปูอัด, ปูอัดแฟนซี ราคา 50 – 100 บาท
- ไข่หวาน, สโมคกี้, ชีสแผ่น ราคา 50 – 80 บาท
- สลัดปรุงรส ราคา 120 – 250 บาท
- ทาโกะ, หอย, แมงกระพรุน, กุ้ง, ปลา ราคา 100 – 150 บาท
- แซลมอน ราคา 300 – 500 บาท (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลาแซลมอน)
- โนรีสาหร่ายแผ่นห่อข้าว ราคา 200 – 300 บาท (แพค 100 แผ่น)
การตั้งราคาขายซูชิ
ปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งราคา
การตั้งราคาขายซูชิเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ การตั้งราคาที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านซูชิมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดและสามารถสร้างกำไรได้ ปัจจัยที่มีผลต่อการตั้งราคาซูชิประกอบด้วย:
- ต้นทุนวัตถุดิบ: ราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการทำซูชิ เช่น ข้าวญี่ปุ่น ปลาแซลมอน ปูอัด และวัตถุดิบอื่นๆ เป็นปัจจัยหลักในการกำหนดราคาขาย ผู้ประกอบการควรคำนวณต้นทุนวัตถุดิบอย่างละเอียดและรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าไฟฟ้า และค่าจ้างพนักงาน
- คุณภาพวัตถุดิบ: คุณภาพของวัตถุดิบมีผลต่อราคาขาย หากใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ราคาซูชิอาจจะสูงขึ้นเพื่อสะท้อนถึงคุณภาพและความพิเศษของสินค้า
- กลุ่มเป้าหมาย: การตั้งราคาควรคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก เช่น วัยรุ่น วัยทำงาน หรือกลุ่มครอบครัว การตั้งราคาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้ซูชิเป็นที่ยอมรับและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น
กลยุทธ์การตั้งราคา
การตั้งราคาซูชิสามารถใช้กลยุทธ์หลากหลายเพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย เช่น:
- การตั้งราคาแบบเป็นขั้น: ตั้งราคาซูชิหลายระดับตามคุณภาพและประเภทของวัตถุดิบ เช่น ซูชิธรรมดาราคา 5 บาท ซูชิพิเศษราคา 10 บาท และซูชิพรีเมียมราคา 20 บาท การตั้งราคาแบบนี้จะช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกในการเลือกซื้อซูชิตามงบประมาณและความต้องการของตนเอง
- การตั้งราคาโปรโมชั่น: จัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ซื้อ 10 ชิ้น แถม 1 ชิ้น หรือจัดเซ็ทเมนูราคาพิเศษในช่วงเวลาเฉพาะ การจัดโปรโมชั่นจะช่วยกระตุ้นการขายและเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านซูชิ
- การตั้งราคาตามฤดูกาล: ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลและตั้งราคาตามความนิยมของลูกค้าในช่วงเวลานั้น เช่น ช่วงปลาทูน่าเยอะ ราคาจะถูกลง ช่วงปลาซาบะหายาก ราคาจะสูงขึ้น การตั้งราคาตามฤดูกาลจะช่วยให้ร้านสามารถปรับตัวตามสภาพตลาดได้
การปรับปรุงและทบทวนราคา
การปรับปรุงและทบทวนราคาขายซูชิเป็นกระบวนการที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ผู้ประกอบการควรติดตามและประเมินผลการขาย การรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า และการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดเพื่อปรับปรุงราคาขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน การปรับปรุงราคาขายให้เหมาะสมจะช่วยให้ร้านซูชิมีความยืดหยุ่นและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
แหล่งซื้อวัตถุดิบขายส่ง
ความสำคัญของแหล่งซื้อวัตถุดิบ
การเลือกแหล่งซื้อวัตถุดิบขายส่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจร้านซูชิ เพราะวัตถุดิบมีผลต่อคุณภาพของสินค้า ต้นทุนการผลิต และความพึงพอใจของลูกค้า การมีแหล่งซื้อวัตถุดิบที่เชื่อถือได้และมีคุณภาพสูงจะช่วยให้ร้านซูชิสามารถสร้างสรรค์เมนูที่มีคุณภาพ และรักษาความน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า
แหล่งซื้อวัตถุดิบที่นิยม
- ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร: เป็นหนึ่งในแหล่งซื้อวัตถุดิบขายส่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย แม็คโครมีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งวัตถุดิบสดและแห้ง เช่น ข้าวญี่ปุ่น ปลาแซลมอน ปูอัด ไข่กุ้ง และยำสาหร่าย ราคาที่จำหน่ายที่แม็คโครจะมีความเหมาะสมและสามารถซื้อในปริมาณมากได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อวัตถุดิบในราคาประหยัด
- ร้านขายส่งออนไลน์: ในยุคดิจิทัล ร้านขายส่งออนไลน์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย มีร้านค้ามากมายที่จำหน่ายวัตถุดิบสำหรับทำซูชิ เช่น Shopee, Lazada, Alibaba ร้านค้าเหล่านี้มีการจัดส่งสินค้าถึงที่และมีราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
- ตลาดสดและตลาดขายส่ง: ตลาดสดและตลาดขายส่งเป็นแหล่งซื้อวัตถุดิบที่สามารถหาของสดและใหม่ได้ทุกวัน เช่น ตลาดคลองเตย ตลาดมหานาค ที่ตลาดเหล่านี้ผู้ประกอบการสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบได้ตามความต้องการและสามารถต่อรองราคาได้ ทำให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและราคายุติธรรม
ข้อควรพิจารณาในการเลือกแหล่งซื้อวัตถุดิบ
- คุณภาพของวัตถุดิบ: ผู้ประกอบการควรเลือกซื้อวัตถุดิบจากแหล่งที่มีการรับประกันคุณภาพและมีมาตรฐานในการจัดเก็บและขนส่ง เช่น การใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิในการขนส่งปลาแซลมอน หรือการตรวจสอบคุณภาพข้าวญี่ปุ่นก่อนนำมาจำหน่าย
- ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย: ควรเลือกซื้อวัตถุดิบจากผู้ขายที่มีความน่าเชื่อถือและมีความชำนาญในการจำหน่ายวัตถุดิบสำหรับทำซูชิ การตรวจสอบรีวิวจากลูกค้าคนอื่นๆ และการมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจในการซื้อวัตถุดิบ
- ราคาและเงื่อนไขการชำระเงิน: ควรเปรียบเทียบราคาจากหลายๆ แหล่งก่อนตัดสินใจซื้อ และเลือกผู้ขายที่มีราคาสมเหตุสมผลและมีเงื่อนไขการชำระเงินที่ยืดหยุ่น การมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดสำหรับการซื้อในปริมาณมากก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณา
การบริหารจัดการวัตถุดิบ
หลังจากเลือกแหล่งซื้อวัตถุดิบแล้ว การบริหารจัดการวัตถุดิบก็เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพและลดความสูญเสีย ผู้ประกอบการควรมีระบบการจัดเก็บวัตถุดิบที่เหมาะสม เช่น การแช่แข็งปลาแซลมอนในอุณหภูมิที่ถูกต้อง การจัดเก็บข้าวญี่ปุ่นในที่แห้งและไม่มีแมลงรบกวน และการตรวจสอบสต็อกวัตถุดิบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ามีวัตถุดิบเพียงพอสำหรับการผลิตซูชิในแต่ละวัน
เทคนิคเพิ่มเติมในการจัดร้าน
แสงสว่างที่เพียงพอ
การใช้แสงสว่างที่เพียงพอและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ร้านซูชิดูโดดเด่นและน่าดึงดูดมากขึ้น การใช้ไฟส่องไปยังซูชิจะทำให้ซูชิดูสดใหม่และมีความเงางาม โดยเฉพาะในเวลากลางคืน การจัดแสงสว่างให้เหมาะสมจะทำให้ลูกค้ามองเห็นรายละเอียดของซูชิได้ชัดเจนขึ้นและสร้างบรรยากาศที่น่าเข้ามารับประทาน
ผ้าปูโต๊ะและของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น
การใช้ผ้าปูโต๊ะและของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับร้านซูชิ การใช้ผ้าปูโต๊ะที่มีลวดลายญี่ปุ่นหรือใช้สีที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น สีแดง สีดำ สีขาว จะช่วยให้ร้านดูมีเอกลักษณ์และสร้างความรู้สึกถึงบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ นอกจากนี้ การใช้ของตกแต่งเช่น โคมไฟญี่ปุ่น โมบายลม หรือของประดับเล็กๆ น้อยๆ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านมากขึ้น
การจัดวางซูชิในถาด
การจัดวางซูชิในถาดให้เต็มและเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้า ถาดไหนหรือซูชิหน้าไหนที่ขายหมดแล้วควรรีบนำออกทันที เพื่อไม่ให้ดูโล่งและไม่น่าดึงดูด การจัดวางซูชิให้เป็นระเบียบและสวยงามจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้าซูชิไม่เละหรือถูกทำลาย เนื่องจากจะทำให้ดูไม่น่ารับประทาน
การทำซูชิสดใหม่
การทำซูชิสดใหม่เป็นสิ่งที่ช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติของซูชิ โดยเฉพาะซูชิหน้าปลาดิบที่ต้องการความสดใหม่จึงจะอร่อย การทำซูชิทิ้งไว้คราวละมากๆ อาจทำให้เสียรสชาติและลดคุณภาพของซูชิได้ ดังนั้นควรทำซูชิตามปริมาณที่ขายได้ในแต่ละช่วงเวลา และควรเตรียมวัตถุดิบไว้เพียงพอสำหรับการทำซูชิสดใหม่ตลอดเวลา
การจัดโปรโมชั่นและเพิ่มช่องทางจำหน่าย
การจัดโปรโมชั่นเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นการขายและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ เช่น การจัดโปรโมชั่นซื้อ 10 ชิ้น แถม 1 ชิ้น หรือการลดราคาในช่วงเวลาที่ใกล้ปิดร้านเพื่อระบายสินค้าคงเหลือ นอกจากนี้ การเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เช่น การรับออเดอร์ผ่าน Facebook หรือ Line จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และยังเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ร้านและเมนูซูชิใหม่ๆ ได้อีกด้วย
การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายนี้ การปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสำเร็จของธุรกิจ ผู้ประกอบการควรรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการ นอกจากนี้ ควรติดตามแนวโน้มและความนิยมในตลาดเพื่อปรับเปลี่ยนและพัฒนาเมนูให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ
การเพิ่มช่องทางจำหน่าย
การใช้ช่องทางออนไลน์
ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, และ Line เพื่อโปรโมทร้านและรับออเดอร์ การสร้างเพจธุรกิจและโพสต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับซูชิ เช่น รูปภาพของซูชิใหม่ๆ โปรโมชั่น หรือรีวิวจากลูกค้า จะช่วยเพิ่มการรับรู้และดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ได้
การใช้ฟังก์ชันของ Facebook เช่น Facebook Shops หรือ Instagram Shops จะช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อซูชิได้โดยตรงจากโพสต์ของร้าน นอกจากนี้ การใช้ Line Official Account หรือ Line@ เพื่อจัดการออเดอร์และติดต่อกับลูกค้าเป็นอีกช่องทางที่สะดวกและเป็นที่นิยมในประเทศไทย ลูกค้าสามารถสั่งซื้อซูชิผ่าน Line และได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว
การร่วมมือกับบริการเดลิเวอรี่
การร่วมมือกับบริการเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยม เช่น GrabFood, FoodPanda, Line Man, และ Get จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างรวดเร็ว บริการเดลิเวอรี่เหล่านี้มีฐานลูกค้าที่กว้างขวางและสามารถช่วยให้ลูกค้าสามารถสั่งซูชิจากร้านของคุณได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องออกจากบ้าน
การลงทะเบียนและร่วมมือกับบริการเดลิเวอรี่ยังช่วยให้ร้านของคุณได้รับการโปรโมทในแพลตฟอร์มเหล่านี้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเห็นและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ นอกจากนี้ การให้บริการเดลิเวอรี่ยังเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายและรวดเร็ว
การจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษ
การจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษสามารถช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ เช่น การจัดกิจกรรมเปิดตัวร้าน การจัดโปรโมชั่นพิเศษในวันหยุดหรือเทศกาล หรือการจัดการแข่งขันชิมซูชิฟรี สำหรับลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อตามยอดที่กำหนด การจัดกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการเข้ามาเยี่ยมชมร้าน
นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าประจำ เช่น การแจกคูปองส่วนลดหรือสิทธิพิเศษในการสั่งซื้อซูชิเป็นสิ่งที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพิ่มความภักดีต่อร้าน
การทำงานร่วมกับบริษัทและองค์กร
การเสนอซูชิเป็นบริการสำหรับบริษัทหรือองค์กรเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มช่องทางจำหน่าย เช่น การให้บริการจัดซูชิสำหรับงานเลี้ยงหรือประชุม การร่วมมือกับองค์กรเพื่อจัดอีเวนต์หรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับพนักงาน การให้บริการแบบนี้จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและสร้างรายได้ที่มั่นคงจากลูกค้าประเภทนี้
การร่วมมือกับบริษัทและองค์กรยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านในกลุ่มลูกค้าทางธุรกิจที่มีความต้องการในการสั่งซูชิสำหรับกิจกรรมต่างๆ
การสร้างประสบการณ์ลูกค้า
การเพิ่มช่องทางจำหน่ายควรคำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าอยากกลับมาที่ร้านซ้ำ การให้บริการที่ดี การจัดซูชิอย่างพิถีพิถัน การตอบสนองอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะบอกต่อและแนะนำร้านซูชิของคุณให้กับคนอื่นๆ
การสร้างประสบการณ์ที่ดีควรรวมถึงการมีระบบการสั่งซื้อที่ใช้งานง่าย การจัดส่งที่รวดเร็วและปลอดภัย การมีเมนูที่หลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงการมีการตอบรับความคิดเห็นของลูกค้าอย่างมืออาชีพ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
@maejibsushi อุปกรณ์เปิดร้านซูชิลงทุนเท่าไร#อาชีพเสริมเพิ่มรายได้ #สร้างอาชีพ แม่จิ๊บสอนทำซูชิออนไลน์ #เชฟร้านทั่วไทยกับtiktok #เชฟร้านทั่วไทยกับติ๊กต็อก #สอนทําซูชิ #ซูชิ
1. การเปิดร้านซูชิเริ่มต้นต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่?
การเปิดร้านซูชิสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 2,900 บาท หากเลือกซื้อแฟรนไชส์ หรือ 4,000 บาท หากเปิดร้านด้วยตัวเอง ค่าใช้จ่ายนี้ไม่รวมค่าเช่าพื้นที่ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 300 – 500 บาทต่อวัน นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำซูชิ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
2. ควรเลือกเรียนทำซูชิที่ไหนดีที่สุด?
มีหลายทางเลือกในการเรียนทำซูชิ สามารถเลือกเรียนจากโรงเรียนสอนทำซูชิที่มีชื่อเสียง หรือเรียนจากผู้เชี่ยวชาญที่เปิดคอร์สสอนแบบตัวต่อตัว นอกจากนี้ยังสามารถเรียนผ่านคลิปวีดีโอออนไลน์จากแพลตฟอร์มเช่น YouTube และ Facebook ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ด้วยตัวเองที่บ้าน
3. การเป็นตัวแทนจำหน่ายซูชิหรือการซื้อแฟรนไชส์มีข้อดีอย่างไร?
การเป็นตัวแทนจำหน่ายซูชิหรือซื้อแฟรนไชส์มีข้อดีหลักๆ คือ ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ เพราะแฟรนไชส์มักจะมีอุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมให้ บางแฟรนไชส์ยังมีการจัดเตรียมซูชิให้พร้อมขายเลย ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการและการลงทุนเริ่มต้น
4. กลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับร้านซูชิคือใคร?
กลุ่มเป้าหมายหลักของร้านซูชิคือวัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงาน เนื่องจากซูชิมีขนาดที่พอเหมาะสำหรับการรับประทานระหว่างวัน และมีรสชาติที่ถูกปาก มีความแปลกใหม่ และหลากหลายแบบให้เลือก ซึ่งเหมาะสำหรับการรับประทานทุกวัน
5. ทำเลที่ตั้งร้านซูชิควรเลือกอย่างไร?
ทำเลที่ตั้งของร้านซูชิควรเลือกตามจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือใกล้หอพักและอพาร์ตเมนต์ นอกจากนี้ ในยุคดิจิทัล การร่วมมือกับบริการเดลิเวอรี่อาจช่วยลดความสำคัญของทำเลที่ตั้ง แต่ยังคงต้องเลือกสถานที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเยี่ยมชมบ่อยครั้ง
สรุป
การเปิดร้านซูชิเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสูงและได้รับความนิยม เนื่องจากซูชิเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมและเข้าถึงได้ง่าย การเตรียมตัวก่อนเริ่มต้นธุรกิจร้านซูชิรวมถึงหลายด้านที่สำคัญ ดังนี้:
1. การกำหนดรูปแบบร้านซูชิ ควรเริ่มต้นด้วยการตัดสินใจเกี่ยวกับรูปแบบของร้านซูชิที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นร้านซูชิบาร์, ร้านซูชิเล็กๆ, หรือร้านซูชิตลาดนัด การกำหนดรูปแบบจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนและบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การเรียนรู้และฝึกฝนการทำซูชิ การมีทักษะในการทำซูชิเป็นสิ่งสำคัญในการเปิดร้าน ควรลงทุนเวลาในการเรียนรู้การทำซูชิผ่านการเรียนจากสถาบันที่มีชื่อเสียง หรือศึกษาจากแหล่งความรู้ออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะให้มีคุณภาพ
3. การเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อแฟรนไชส์ หากไม่ต้องการเริ่มต้นจากศูนย์ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ซูชิหรือการเป็นตัวแทนจำหน่ายซูชิเป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งจะช่วยลดภาระในการจัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบ และมีการสนับสนุนจากแฟรนไชส์
4. การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การรู้จักกลุ่มเป้าหมายหลักที่ชอบซูชิ เช่น วัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงาน จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งเมนูและตั้งราคาซูชิให้ตรงกับความต้องการของตลาด
5. การกำหนดทำเลที่ตั้ง การเลือกทำเลที่ตั้งของร้านซูชิควรเน้นจุดที่มีการเดินทางพลุกพล่าน เช่น ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือหอพัก และหากทำเลไม่ดี สามารถใช้บริการเดลิเวอรี่เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า
6. การตั้งราคาขายซูชิ ควรกำหนดราคาซูชิตามต้นทุนวัตถุดิบและความสามารถในการแข่งขันในตลาด ราคาเริ่มต้นอาจอยู่ที่ 5 บาทถึง 20 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและหน้าของซูชิ
7. แหล่งซื้อวัตถุดิบขายส่ง ควรเลือกแหล่งซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีและราคาเหมาะสม เช่น ร้านขายส่งวัตถุดิบซูชิออนไลน์และตลาดสด
8. เทคนิคเพิ่มเติมในการจัดร้าน การใช้แสงสว่างที่เพียงพอ การตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่น การจัดวางซูชิให้ดูน่าสนใจ และการรักษาความสดใหม่ของซูชิเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้า
9. การเพิ่มช่องทางจำหน่าย การเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์และการร่วมมือกับบริการเดลิเวอรี่จะช่วยขยายกลุ่มลูกค้าและเพิ่มยอดขาย