ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านพุทธศาสนาและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มาเมืองไทยจะได้ชมงานสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย มีชื่อเสียง ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น พระบรมมหาราชวัง เมืองโบราณ สยาม นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ อีกมากมายที่จะแนะนำคุณโดย ผ่านบทความด้านล่างนี้
วัดพระแก้ว. วัด
วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)ถือเป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศไทย วัดตั้งอยู่ในเขตประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร (เขตพระนคร) ภายในบริเวณพระราชวัง การก่อสร้างวัดนี้เริ่มขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงย้ายเมืองหลวงจากธนบุรีมายังกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2328
วัดพระแก้วตั้งอยู่ติดกับพระบรมมหาราชวังและมีความสำคัญที่สุดในบรรดาวัดที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยถือเป็นวัดของราชวงศ์ มีพื้นที่ 945,000 ตร.ม. รวมอาคารสูงมากกว่า 100 ชั้น และเป็นวัดเดียวที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงไม่เพียงแต่ในด้านความสวยงามของสถาปัตยกรรมหลายสไตล์เท่านั้น แต่ยังมีชื่อเสียงในด้านพระพุทธรูปหยกที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบรรดาพระพุทธรูปนับไม่ถ้วนในราชอาณาจักรอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากวัดอื่น ๆ วัดนี้ไม่มีที่อยู่อาศัยสำหรับพระสงฆ์ แต่มีอาคารที่ตกแต่งด้วยฉากและรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและนักท่องเที่ยวมักจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงบที่นี่ วัดพระแก้วสร้างขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) เสด็จจากกรุงธนบุรีมายังกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2328 แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของคนไทย
วัดอรุณ. วัด
วัดอรุณหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดแจ้ง ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) ของแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าเป็นหนึ่งในวัดศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพมหานครโดยการท่องเที่ยวไทย ไม่เพียงเพราะทำเลที่ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการออกแบบที่แตกต่างจากวัดอื่น ๆ ที่คุณสามารถเยี่ยมชมในกรุงเทพฯ . วัดอรุณ (หรือวัดอรุณราชวราราม) ประกอบด้วยยอดแหลมหลากสีและตั้งตระหง่านอยู่เหนือน้ำ
วัดอรุณเป็นภาพที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้เมื่อ พ.ศ. 2311 เชื่อกันว่าหลังจากทรงยกทัพออกจากกรุงศรีอยุธยาซึ่งถูกกองทัพพม่ายึดครองอยู่ในขณะนั้นแล้ว พระองค์ก็เสด็จมาถึงวัดนี้ในเวลารุ่งเช้า แล้วทรงปฏิสังขรณ์วัดใหม่และพระราชทานนามใหม่ว่าวัดแจ้ง ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระแก้วมรกต ก่อนที่เมืองหลวงและพระราชวังจะถูกย้ายไปอีกฝั่งของแม่น้ำ
หอคอยกลางได้รับการขยายในสมัยรัชกาลที่ 3 (พ.ศ. 2367-2394) และปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงเป็นผู้ประดับยอดแหลมด้วยกระเบื้องเคลือบเพื่อช่วยให้พระปรางค์วัดอรุณมีแสงแดดส่องถึง คุณควรใช้เวลาอย่างน้อยประมาณหนึ่งชั่วโมงเพื่อสำรวจวัดอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะรู้จักกันในนามวัดแห่งรุ่งอรุณ แต่จะมีความสวยงามตระการตาในตอนพลบค่ำ โดยเฉพาะเมื่อประดับไฟในตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม ตอนเช้าตรู่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมวัด เนื่องจากตอนนี้เงียบกว่าก่อนที่ผู้คนจะหลั่งไหลเข้ามา
ด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรมประกอบกับความเฉลียวฉลาดของช่างฝีมือ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนถือว่าวัดอรุณฯ เป็นวัดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย หอคอยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ยอดหอคอยสูงกว่า 70 เมตร ประดับประดาอย่างสวยงามด้วยกระจกชิ้นเล็ก ๆ พร้อมเครื่องลายครามจีนที่จัดวางอย่างวิจิตรซับซ้อนไม่น้อย
วัดโลหะปราสาท
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2389 ตามคำสั่งของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) และได้รับแรงบันดาลใจจากวัด 2 แห่งในอินเดียและศรีลังกาโลหะปราสาทเป็นโครงสร้างสูง 36 เมตร มียอดแหลมโลหะ 37 ยอด ซึ่งแสดงถึงคุณงามความดี 37 ประการที่มุ่งสู่การตรัสรู้ วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยวิธีที่ไม่ธรรมดาโดยการนำลูกบาศก์ศูนย์กลางมาซ้อนกันหลายชั้นอย่างมีเหตุผล พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ชั้นบนสุด
โลหะปราสาทเป็นชื่อเรียกของชาวอินเดียในสมัยพุทธกาล โดยอ้างอิงถึงการสร้างด้วยโครงสร้างโลหะทรงสี่เหลี่ยมหลายชั้นสำหรับพระสงฆ์ อาคารดังกล่าวมีเพียงสามแห่งเท่านั้นที่สร้างขึ้นในโลกเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯเพียงแห่งเดียวที่ยังคงยืนอยู่
ตั้งอยู่ใกล้กับข้าวสารและวัดสระเกศมาก ดังนั้นเมื่อคุณมาถึงบริเวณช็องเซลิเซ่แห่งนี้แล้ว คุณต้องแวะที่ วัด โลหะปราสาท. (Champs Elysées เป็นถนนที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส บริเวณนี้มีโรงละคร ร้านกาแฟ บาร์ ร้านค้าแฟชั่นหรูหรามากมาย) ค่าเข้าชมวัดและค่าขึ้นบันไดเวียน 20 บาท แต่คนไม่ค่อยเยอะ ควรให้ 20 บาทเป็นบุญด้วย เดินเล่นไปตามทางเดินที่ประกอบด้วยเสามากมายเพื่อชื่นชมศิลปะและประวัติศาสตร์ของวัดแห่งนี้ ซึ่งค่อนข้างชำรุดทรุดโทรมจนกษัตริย์องค์ปัจจุบันโปรดให้บูรณะ นอกจากนี้ อย่าลืมชมวิหารสีขาวของวัดราชนัดดารามรอบๆ โลหะปราสาท และพระพุทธรูปทองคำที่ประทับนั่งอย่างสง่างาม รวมถึงบานประตูที่แกะสลักอย่างประณีต ด้านหลังวัดโลหะปราสาทเป็นตลาดขายพระพุทธรูปและเครื่องรางแห่งความสงบที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ข้ามถนนไปก็จะถึงหมู่บ้านบ้านไม้หลังกำแพงป้อมปราการสีขาว จากนั้นเดินทางต่อไปยังวัดสระเกศ
วัดสุทัศน์. วัด
วัดสุทัศน์ชื่อเต็ม วัดสุทัศน์เทพวราราม เป็น 1 ใน 6 วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมือง กรุงเทพมหานคร นอกจากเสาชิงช้าแล้ว วัดสุทัศน์ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
พระเจดีย์สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2350 โดยสมเด็จพระจักรพรรดิรัชกาลที่ 1 และก่อสร้างจนแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 3 เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปปิดทองมากที่สุดและเป็นวัดที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ด้านหน้าวัดมีวัดสุทธัยและเสาชิงช้าซึ่งมีทางเดินแคบๆ และมีพระพุทธรูปปิดทองล้อมรอบ พระพุทธรูปขนาดค่อนข้างใหญ่และสวยงามของสุโขทัยในศตวรรษที่ 14 สร้างความประทับใจให้กับรัชกาลที่ 1 กระตุ้นให้กษัตริย์สั่งให้อัญเชิญพระพุทธรูปไปตามแม่น้ำมายังกรุงเทพฯ ภาพเขียนประดับบนผนังปรากฏตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภาพวาดแสดงสัตว์ทะเลและเรือค้าขายต่างประเทศ
บริเวณวัดทั้งหมดปูด้วยหินแกรนิตที่สะอาดและแวววาว พระประธานในพระอุโบสถ คือ พระศรีศากยมุนี (พระศรีศากยมุนี) ที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นพระปิดทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ห้องสมุดหลังวัดถือได้ว่าใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศไทย หอสมุดนี้สูง 72 ม. มีเสา 68 ต้นล้อมรอบ (พระพุทธไตรโลกเชษฐ์) ปางสมาธิ สูง 8.45 ม. กว้าง 5.20 ม.
พระบรมมหาราชวัง
ตั้งอยู่บนถนนหน้าพระลาน เมืองเก่า (รัตนโกสินทร์) ติดกับแม่น้ำมีพระบรมมหาราชวังตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ สะดวกต่อการเที่ยวชมและการเดินทางของผู้มาเยือน พระบรมมหาราชวัง – พระบรมมหาราชวังของประเทศไทย (หรือที่เรียกว่าพระบรมมหาราชวังของไทย) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชวังทำหน้าที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์ไทยเป็นเวลา 150 ปี ราชสำนักและศูนย์บริหารราชการแผ่นดิน พระราชวังของไทยคล้ายกับพระราชวังอยุธยา
พระบรมมหาราชวังแบ่งออกเป็นสี่ส่วนหลัก:
- วัดพระศรีรัตนศาสดาราม – สถานที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต – สมบัติของชาติแห่งแรกของประเทศไทย
- ทุกปีจะดึงดูดสาวกชาวพุทธและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม รูปปั้นแกะสลักจากบล็อกหยกบริสุทธิ์ ขนาด 48 ซม. x 46 ซม. วางบนแท่นสูง 2 ม. พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องแต่งกายทองคำ 2 ใน 3 ชุดที่ห้อยพระแก้วมรกตนั้นสร้างโดยรัชกาลที่ 1 เอง เครื่องแต่งกายทองคำของพระแก้วมรกตมักจะเปลี่ยนตามฤดูกาลโดยกษัตริย์ไทยเอง
พื้นที่อาคารใช้เป็นสำนักงาน ส่วนราชการ - บริเวณอาคารใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ในพิธีรับเสด็จ
- พื้นที่ของอาคารใช้เป็นที่ประทับของพระมเหสี
